关于泰语的语系归属问题,在学术界一直都存在着不同的声音,一些人认为泰语是汉藏语系的语言,有的认为它和南岛语系也有亲缘关系,还有的学者主张把它列为一直单独的语系,那泰语的语系归属到底是怎样的呢?接下来就让我们来一起了解一下。

ปัญหาเกี่ยวกับ “คนไท” ดูจะทำให้เกิดการถกเถียงในทุกแวดวงวิชาการ นอกจากคำถามยอดนิยมว่า “คนไทยมาจากไหน?” แล้ว เรื่องของ “ภาษาไทย” ก็เป็นปัญหาถกเถียงในประเด็นที่ว่า ภาษาไทยจัดอยู่ในตระกูลใดกันแน่?
关于Tai民族的问题似乎在学术界引发了广泛的争论。除了常见的“Tai民族从哪里来?”之外,“泰语”属于哪个语系也成为了争议的焦点。
ภาษาไทยจัดอยู่ในตระกูลใดกันแน่?
泰语到底属于哪个语系?
“เดิมนั้น นักภาษาศาสตร์บางท่านจัดให้ภาษาไทยอยู่ในกลุ่มตระกูลภาษาจีน-ทิเบต หรือ Sino-Tibetan” ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร อธิบาย แล้วบอกต่อไปอีกว่า
“最初,一些语言学家认为泰语属于汉藏语系。” Prasert na Nagara教授解释道,并继续说道:
“แต่ว่านักภาษาศาสตร์บางท่านก็บอกว่า ที่ไปจัดอย่างนั้นก็เพราะเหตุว่ามันมีเสียงวรรณยุกต์ ภาษาจีนนี่มันมีเสียงวรรณยุกต์ แต่ว่ามีเพียง 4 เสียง ของไทยเรามี 5 เสียงในภาคกลางนะครับ ปักษ์ใต้และอีสานมี 7 เสียง ทีนี้ฝรั่งได้ยินเสียงวรรณยุกต์เหล่านั้น ก็รู้สึกว่าภาษาไทยนี่มันเป็นจีนเสียยิ่งกว่าจีนเองเสียอีก เพราะจีนมีแค่ 4 วรรณยุกต์เท่านั้น ก็เลยจับเอาภาษาไทยไปไว้ในตระกูลจีน-ทิเบต”
“但一些语言学家表示,这种分类是因为泰语中有声调。汉语有声调,但只有四个声调。泰语的中央方言有五个声调,而南部和东北部方言有七个声调。外国人听到这些声调时,认为泰语比汉语更像汉语,因为汉语只有四个声调,所以把泰语归入汉藏语系。”

ต่อมาทฤษฎีดังกล่าวก็ถูกคัดค้าน พร้อมกับนำเสนอทฤษฎีใหม่โดยลูส เบเนดิกส์ ว่า ภาษาไทยจัดอยู่ในตระกูลภาษาไท-กะได ซึ่งกลุ่มคนที่พูดภาษาตระกูลนี้แพร่กระจายอยู่ทางตอนใต้ของจีน จนถึงแคว้นอัสสัมของอินเดีย และกระจายลงไปทางใต้จนถึงอินโดนีเซีย ซึ่งแม้จะมีผู้ที่สนใจเชื่อถือ แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับจากนักภาษาศาสตร์ ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ตั้งทฤษฎีเป็นนักมานุษยวิทยา ไม่ใช่นักภาษาศาสตร์ และวิธีการในการศึกษาก็ไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง
后来,这一理论遭到了反对,并由鲁思·本尼迪克提出了新的理论,即泰语属于台-卡岱语系。讲这种语言的群体分布在中国南部,一直到印度的阿萨姆邦,并延伸到印度尼西亚南部。虽然这一理论得到了部分人的支持,但并未被语言学家广泛接受,原因是提出该理论的人是人类学家,而不是语言学家,且其研究方法也不符合标准。
“ที่ว่า ไท-กะได-อินโดนีเซีย ก็เป็นเพราะเบเนดิกส์เป็นคนตั้งสมมติฐานขึ้นมา แต่ว่าเบเนดิกส์ไม่ได้เป็นนักภาษาศาสตร์ เพราะฉะนั้นเมื่อมีการประชุมภาษาศาสตร์ที่อเมริกา แคนาดา อะไรแบบนี้ ก็เกือบจะเป็นเอกฉันท์ว่าใช้ไม่ได้ เพราะว่ามันมีเรื่องสีเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พวกนักภาษาศาสตร์ก็บอกว่า นี่มันเป็นนักมานุษยวิทยา จะไปรู้เรื่องอะไร เพียงแต่เข้าใจทฤษฎีของภาษาศาสตร์ก็ไม่เข้าใจแล้ว จะบังอาจมาตั้งทฤษฎี เขาก็เลยไม่ยอมรับ” ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ กล่าว
“台-卡岱-印度尼西亚语系是本尼迪克提出的假设,但她不是语言学家。因此,在美国和加拿大的语言学会议上,几乎一致认为这一假设不成立,因为其中涉及种族问题。语言学家认为她是人类学家,可能对语言学不了解,因此不接受她的理论。”Prasert教授说道。

ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจากวิธีการศึกษาของเบเนดิกส์ที่ศึกษาเปรียบเทียบจากคำในปัจจุบัน ต่างจากวิธีการของนักภาษาศาสตร์
这一切都源于本尼迪克比较现代词汇的研究方法,这与语言学家的方法不同。
“เขาก็มีคำอยู่หลายคำที่เอามาเปรียบเทียบ อย่าง ตาย ก็เป็น ปตาย กู เป็น อกู เขามีคำอยู่หลายคำ” ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐอธิบาย
“他们有许多词汇进行比较,比如‘死’是‘ptai’,‘我’是‘aku’,有很多词汇。”Prasert教授解释道。
“แต่ว่านักภาษาศาสตร์ส่วนใหญ่ไม่รับ เขาก็บอกว่ามันไม่ใช่วิธีการทางภาษาศาสตร์ที่เขาจะทำ ทางภาษาศาสตร์เขาจะต้องสานคำกลับไป จากภาษาถิ่นตางๆ เขาจะสานกลับไปว่าภาษาไทยใน พ.ศ. 1200 นั้น ควรจะมีพยัญชนะอะไรบ้าง มีเสียงสระอะไรบ้าง ซึ่งเป็นเสียงดั้งเดิม โดยสานคำจากภาษาถิ่นต่างๆ ค่อยๆ สานกลับไปจนกระทั่งเป็นภาษาดั่งเดิมเมื่อ พ.ศ. 1200 ก็ให้มาเลเซียสานกลับไป อินโดนีเซียสานกลับไป ฟิลิปปินส์กลับไป แล้วจึงจะเอาภาษาเมื่อ 1,200 ปีมาเทียบกัน
“但大多数语言学家不接受这种方法,他们认为这不是正确的语言学方法。语言学家会通过不同的方言词汇进行溯源,以确定佛历1200年的泰语应有哪些辅音和元音是原始音,通过不同方言逐步溯源,直到得到佛历1200年前的原始语言。比如让马来西亚、印度尼西亚、菲律宾分别溯源,然后将佛历1200年前的语言进行比较。

แต่เดี๋ยวนี้ที่เบเนดิกส์ทำ เอาคำในภาษาปัจจุบัน เช่น ตาย ปตาย กู อกู นี่เขาบอกว่ามันไม่ถูกหลัก เพราะว่าอาจจะเป็นว่าเดิมไม่เหมือนกัน แล้วมันกลายมาเหมือนกันทีหลัง เพราะฉะนั้นวิธีการที่ถูกต้องจะต้องสานคำกลับไป ส่วนใหญ่เขาถึงไม่เชื่อถือ เพราะภาษาศาสตร์เขาต้องสานคำกลับไป ให้เก่าที่สุด ถ้าไปถึง Proto thai เมื่อ 2,000 ปีมาแล้วได้ยิ่งดี”
但本尼迪克的方法是比较现代词汇,如‘死’和‘ptai’,‘我’和‘aku’,语言学家认为这不符合规范,因为这些词可能最初不同,但后来变得相似。因此,正确的方法是溯源至最古老的语言,这就是为什么大多数人不相信这种方法。语言学家认为应该溯源至原始泰语,甚至是2000年前的原始泰语。”
“แต่อย่างไรก็ดี ก็ยังมีนักภาษาศาสตร์อีกหลายคนที่ชอบทฤษฎีของ ไท-กะได-อินโดนีเซีย ที่บอกว่า ภาษาไทย และอินโดนีเซีย รวมทั้งมาเลย์ และฟิลิปปินส์นั้นเป็นภาษาเดียวกัน แต่ว่าเขาก็ไม่รับว่ามันมาจากทางใต้ตามที่ลูส เบเนดิกส์ เสนอ ว่าจากเส้นศูนย์สูตรขึ้นไปจนกระทั่งไปถึงเมืองจีน นักภาษาศาสตร์เขาไม่รับ แต่เขารับว่าอาจจะมีไท-กะได-อินโดนีเซีย เป็นตระกูลภาษาที่มันเกี่ยวเนื่องกันเท่านั้นเอง” ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐอธิบายสรุป
“然而,仍有许多语言学家喜欢台-卡岱-印度尼西亚语系的理论,认为泰语、印度尼西亚语、马来语和菲律宾语属于同一语系,但他们不接受鲁思·本尼迪克提出的从赤道向北延伸到中国的观点。有的语言学家不接受这一点,但他们接受台-卡岱-印度尼西亚语系可能是相关的语系。”Prasert教授总结道。

ด้วยปัญหาที่สลับซับซ้อนเช่นนี้ การระบุว่าภาษาไทยจัดอยู่ในกลุ่มตระกูลภาษาใด จึงยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน ศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ กล่าวว่า “มันรวมเข้าที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะงั้นก็จะมีคนว่าเอาไปรวมกับโพลีนีเซียน ไปรวมกับออสเตรเลียอะไรก็ไปกันใหญ่ ต่างคนต่างก็ยังไม่มีเหตุผลเรื่องนี้เพราะงั้นภาษาไทยก็เป็นตระกูลที่แยกออกมาจากภาษาอื่น ไม่เกี่ยวกัน”
由于这些复杂的问题,泰语属于哪个语系目前还没有明确的结论。Prasert教授说道:“泰语无法归入任何现有的语系,因此有些人认为它可以与波利尼西亚语、澳洲语言等语系相结合,但各方都没有足够的证据。因此,泰语可能是一个独立的语系,与其他语言无关。”
คำอธิบายทั้งหมดนี้เรียบเรียงจากบทสัมภาษณ์ ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ในงานประชุมทางวิชาการเนื่องในวาระฉลองอายุ 7 รอบของศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร เรื่อง “จารึกและเอกสารโบราณ : การศึกษาวิจัยในปัจจุบันและทิศทางในอนาคต” ที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ เมื่อวันที่ 21-22 มีนาคม 2546 (ศิลปวัฒนธรรม ฉบับพฤษภาคม 2546)
以上解释整理自Prasert na Nagara教授在其77岁庆生学术会议上的采访,该会议于2003年3月21-22日在Riverside Bangkok酒店举行,题为“铭文与古代文献:当前研究与未来方向”(《艺术与文化》2003年5月刊)。

大家还听过哪些关于泰语语系归属的说法吗?
声明:本文由沪江泰语编译整理,素材来自silpa-mag,未经允许不得转载。如有不妥,敬请指正。